#PeckTom [OS] | Loving rhythm | : Thinking out loud - นิยาย #PeckTom [OS] | Loving rhythm | : Thinking out loud : Dek-D.com - Writer
×

    #PeckTom [OS] | Loving rhythm | : Thinking out loud

    บางครั้งผมนึกสงสัย ว่าทำไมคนเราถึงตกหลุมรักกัน บางครั้งผมนึกสงสัย ว่าทำไมฟ้าถึงส่งคนสองคนมาให้พบกัน นั่นไม่ใช่ความบังเอิญ ทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้ว ทุกอย่าง... แม้แต่ความรู้สึก

    ผู้เข้าชมรวม

    615

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    615

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    17
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 ก.ค. 60 / 17:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    I'm thinking bout how people fall in love in mysterious ways.
    บางครั้งผมก็นึกสงสัยว่าคนเราสามารถตกหลุมรักกันในวิธีที่แปลกพิศวงได้อย่างไร.

    รถไฟฟ้าที่มาจอดเทียบสถานีในยามสายของแต่ละวัน มักจะไม่มีที่เว้นว่างให้กับคนที่ทำอะไรชักช้า 
    คนตัวเล็กภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะสะพายเป้สายยาวเฟื้อยวิ่งขึ้นบันไดเร็วสุดชีวิต เขาหวังว่าจะมาทันรถไฟฟ้าคันนี้ที่ผู้คนกำลังเดินเข้าอย่างไม่มีใครรอใคร
     ขาสั้นๆวิ่งสับกัน4x100 สัญญาณของรถเตือนว่าประตูจะปิดอีกในไม่ช้า แทนที่เขาควรจะหยุดวิ่ง แต่ความคิดเขาบอกว่า 

     'ถ้าเธอจะหยุดวิ่ง มันคุ้มกับการที่บอสจะต้องเรียกไปตักเตือนเรื่องมาสายเป็นครั้งที่3ของอาทิตย์นี้แล้วเหรอ?'

     "ไม่ ฉันจะไม่สาย!"

     อิศราพุ่งสุดตัวไปยังรถไฟฟ้าที่ประตูจะปิดอีกในไม่กี่วินาที เหงื่อเป็นเม็ดๆหยดลงที่พื้นกับกางเกง แต่ใครจะสนล่ะ? 
    ประชากรกลุ่มใหญ่ในรถไฟฟ้าต่างมองลุ้นว่าคนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกลจะขึ้นรถไฟฟ้ารอบนี้ทันไหม 
    ในรถไฟฟ้ามีชายหนุ่มสวมหมวกแก๊ปสีดำ ใส่เสื้อเชิ้ตอย่างดีโดยมีสูทคลุมทับ มองแล้วช่างไม่เข้ากับหมวกที่สวมอยู่เอาเสียเลย เขายืนมองอยู่หน้าประตู นึกขบขันในใจกับท่าทีที่ดูลนๆของคนที่วิ่งมาตรงหน้า 
    แต่ดูเหมือนเขาจะวิ่งเข้ามาเร็วจนน่ากลัว ผลิตโชคม่านตาขยาย ตกใจเมื่อเห็นประตูกำลังจะปิด เขารีบคว้าแขนคนตัวเล็กที่ตัวเข้ามาในรถไฟได้เพียงครึ่งเดียวไว้ให้เร็วที่สุด 
    ทันทีที่รถไฟส่งสัญญาณว่าจะออกจากชานชาลา อิศราก็รู้สึกได้ว่าเขาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคนที่ไม่รู้จัก ความรู้สึกปลอดภัยได้เข้ามาแทนที่ สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยกำลังโอบรัดที่เอวของเขาอย่างแน่นราวกับว่าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ

     So honey now,take me into your loving arms. 
    ที่รัก,ตอนนี้ให้ผมได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคุณนะ. 
    Place your head on my beating heart. 
    ซบหัวของคุณลงตรงหัวใจของผมที่กำลังเต้นอยู่.  

    โชคดีที่ผู้คนในรถไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไรนักเพราะในรถไฟฟ้าคันนี้ช่างแออัดเสียเหลือเกิน ดังนั้นการหาอากาศหายใจคงจะสำคัญกว่าเรื่องอื่นๆ 
    คนตัวสูงเท่าไหล่เงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มในหมวกแก๊ป เขาตกใจและพยายามดิ้น

     "ชู่ว.. อย่าดิ้นสิ มันจะชนคนข้างๆ" 

     ผลิตโชคก้มหน้ามากระซิบให้คนในอ้อมแขนได้ยิน อิศรามองหน้าเขากลับและเพียงทำตามคำสั่ง 
    ร่างกายของเขาสั่งให้ใบหน้าเล็กๆแดงอัตโนมัติ เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดซึมขึ้นมาทั่วตัว เขาอยากจะเช็ดมันออกเสียเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่าเขาถูกพันธนาการไว้ในอ้อมแขนของคนแปลกหน้า 
    ที่รู้สึกคุ้นเคย... 
    ผลิตโชคมองคนในอ้อมกอดของเขาเพราะรู้สึกว่าอุณหภูมิจากกายของคนตรงหน้าดูร้อนวูบขึ้นมากระทันหัน 

     "เป็นอะไร? เขินผมเหรอ?" 

     'แล้วคิดว่าฉันอยากให้คนแบบนี้กอดมากไหม ขี้เก๊ก!'

     ความคิดในหัวอิศราแล่นขึ้นมาผ่านสีหน้า จนทำให้ผลิตโชคต้องขำในลำคอ นั่นยิ่งทำให้ร่างเล็กหน้านิ่วคิ้วขมวดกว่าเดิม 

     "มารยาทน่ะมีไหม เราเคยรู้จักกันหรือไง?"

     "ก็..ไม่ แต่อยากรู้จักป้ะล่ะ"

     ผลิตโชคยังคงเล่นหูเล่นตา พร้อมอ้อยเรี่ยราดเหมือนที่เขาเคยทำประจำ 

     'สติ อิศรา สติ เก็บปากไว้พรีเซนต์งานให้บอสฟังดีกว่า'

     ชายหนุ่มแว่นหนาถอนหายใจยาวๆ พร้อมกับมองไปทางอื่น เขาไม่รู้ตัวหรอกว่า คนที่กอดเขาอยู่กำลังสูดดมกลิ่นเนื้อตัวของเขาโดยไม่ขออนุญาต 

     'หอมจัง กลิ่นอะไรนะ'

     ผลิตโชคหลับตาพริ้มอารมณ์ดี ไม่สนใจสิ่งรอบข้างอีกต่อไป เพราะเวลานี้คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้แล้วล่ะ . . . . 
    .
    .
    .
    .
    .
     "คุณจะเดินตามผมมาทำไม" 

    อิศราก้าวขาให้เร็วที่สุด ยาวที่สุด แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะคนข้างหลังเดินตามเขามาติดๆ นี่ถ้าเป็นตอนกลางคืน เขาคงคิดไปไกลว่าจะต้องโดนปล้นกลางทางแหงมๆ  

    "ก็มันเป็นทางไปที่ทำงานผม"

     "บ้าหน่า ผมต่างหากกำลังเดินไปที่ทำงาน...."

     อิศราหยุดยืนนิ่ง บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ ก็มีอยู่ที่เดียว....  

    'อายนบุตรอสังหาฯ'

     'โอ๊ยยยยยยยย นี่ฉันต้องทำงานร่วมบริษัทกับคนแบบนี้จริงๆเหรอ'  

    "งั้น...ก็เดินไปด้วยกันเนอะ ไหนๆก็ไหนๆ"

     ผลิตโชคยิ้มกริ่มอารมณ์ดี ตัดกับสีหน้าคนข้างๆ อิศรามองคนตัวสูงกว่าอย่างไม่สบอารมณ์ 

     "เอ้อ ว่าแต่เพื่อนใหม่ของเป๊กกี้ชื่ออะไรเนี่ย"

     "ยุ่ง!" 

     "อ๋อ สวัสดีครับยุ่ง"

     ผลิตโชครู้ตัวหรือเปล่าว่าเขาทำให้อิศราหัวร้อนขนาดไหน ถ้ามีน้ำมัน กระทะกับไข่สักฟอง รับรองว่าเช้านี้คนที่กวนประสาทอิศราจะได้กินไข่ดาวเป็นมื้อเช้าแน่ 
    เขาเริ่มเดินสับขาไวๆอีกครั้ง 

     "อ้าว คุณยุ่ง รอเราด้วยดิ" 

    คนอย่างผลิตโชคไม่ได้ใสซื่อจนแยกคำด่ากับชื่อคนไม่ถูกหรอก เขาก็กวนประสาทกลับไปเรื่อย ตามประสาแบดบวยของเขานั่นน่ะ ;') 
    .
    ร่างเล็กเดินมาถึงหน้าประตูบริษัทก่อน เขารีบร้อนเข้าไปกดลิฟท์ก่อนที่คนกวนโอ๊ยจะเดินตามมาทัน โชคเข้าข้างอิศรา ประตูลิฟท์อ้าเปิดต้อนรับเขาเพียงผู้เดียว 

     "หึ Isara is the winner!" 
    .
    .
    .
    .
    .

     "อ้าว อีทอม วันนี้ฟ้าต้องผ่าแน่ๆ นี่เพิ่ง9โมงนะ มาถึงก่อนพี่โอได้ยังไง"

     อิศรายิ้มหวานให้ชุติมน เพื่อนผู้หญิงคนเดียวของเขาในบริษัท 

    "แกจะบ่นว่าฉันมาสายอีกไม่ได้แล้วนะยัยมน ฮ่าๆ"

     อิศราหัวเราะอารมณ์ดี แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องมาเช้า แต่เพราะเขานึกเป็นตุเป็นตะไปเองว่าการได้ขึ้นลิฟท์โดยไร้คนกวนประสาทนั้น แปลว่าเขาชนะ 
    .
    .
    .
     ผลิตโชคหอบสูทอันหนักอึ้งเดินเข้าไปในห้อง 'Administrator' อย่างเงียบๆ ก่อนจะเงี่ยหูฟังคนคุยกันจอแจอยู่ฝั่งพนักงานด้านนอก 

     "ทอม.." 

     พอได้รู้ถึงชื่อคนที่โมโหร้ายใส่เขาเมื่อเช้านี้ก็อดยิ้มไม่ได้ 

     "ยิ้มหวานจัง"

     ลูกชายคนเดียวของคนที่อิศราเรียกว่าบอสพูดพึมพัมพร้อมชะเง้อมองออกจากห้องกระจกเป็นระยะๆ แปลกที่หนุ่มน้อยหน้าบูดเมื่อเช้านี้กลับทำให้เขายิ้มอย่างมีความสุขได้ทุกครั้งเมื่อนึกถึง

      And baby,your smiles's forever in my mind and memory. 
    รอยยิ้มของคุณจะอยู่ในใจกับความทรงจำของผม.  

    ' 11 a.m. ' 

    อิศรามองนาฬิกาข้อมืออยู่ในห้องประชุมอย่างเบื่อหน่าย สาวความถึงผู้จัดการแผนกพูดเกริ่นว่านับจากนี้ ผู้บริหารคนใหม่จะเข้ามาทำงานแทนคนปัจจุบัน ดีกรีระดับนักเรียนนอก สาขาการจัดการบริหารธุรกิจจะเข้ามาดูงานประมาณ10โมงครึ่ง 
    ซึ่งอิศราก็คงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักถ้าเกิดว่าบอสคนใหม่ของเขาไม่มาเลทขนาดนี้  

    "คุณผลิตโชคมาแล้วค่ะ"

     อิศราเงยหน้าขึ้นมามอง ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่มาสายขนาดนี้จะเป็นบอสได้ดีขนาดไหน 

     "สวัสดีครับทุกคน"

     ผลิตโชคทักทายลูกน้องนับสิบในห้องแบบเป็นกันเอง ทุกคนยกมือขึ้นสวัสดีเจ้านายคนใหม่ 
    ยกเว้นน้องยุ่ง...อิศรา 

     "อ้าว สวัสดีครับคุณยุ่ง" 

     ทุกคนในห้องมองหน้ากันงง 

     'อุส่าห์ภาวนาให้ทำงานคนละแผนก ทำไมชีวิตอีทอมมันซวยแบบนี้วะ'  

    "สวัสดีครับ....บอส"

     อิศรากัดฟันพูด จู่ๆภาพในรถไฟฟ้าเมื่อเช้าก็วูบกลับเข้ามาในหัวสมอง บอสบ้า! 
    .
    .
    .

    ' 5.30 p.m. '  

    ฤดูฝนทำให้ทุกอย่างดูอึมครึมไปเสียหมด รวมถึงอิศรา
     เขาเบ้ปากเพราะหาร่มที่เสียบอยู่ข้างเป้ไม่เจอ คงจะตกที่BTSเมื่อเช้า  

    "แล้วฉันจะเดินไปยังไงตั้งไกล" 

     อิศราถอนหายใจอย่างแรงครั้งหนึ่ง 

     "ไปกับเราก็ได้น้าาาาา น้องยุ่ง"

     อิศราเงยหน้า บอสคนใหม่ของเขาถือร่มคันใหญ่อยู่ในมือ ทำไมต้องมาอยู่ทุกที่ด้วย อิศไม่เข้าใจแต่งงมากๆ 

     "ไม่อ่ะ...ขอบคุณครับ บอส"

     ไม่ได้เกรงใจ แต่ไม่ชอบ  

    "เอาน่าน้องยุ่ง ที่ร่มน้องยุ่งตกก็เพราะเรา เรากระชากแขนเธอแรงไปหน่อย ร่มเลยตก"

     ผลิตโชคพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า เพื่อได้กลับกับลูกน้องใหม่หน้ามุ่ยของเขา  

    "......."

     "เอาน่าาาา เดี๋ยวเลี้ยงไอติมด้วยเลย ถือว่าไถ่โทษ" 

    อิศรามองแววตาคนเป็นเจ้านายที่เปี่ยมไปด้วยความหวังดี ยากที่จะปฏิเสธ  

    "ทำไมบอสต้องดีกับผมฮะ ผมตัวไม่ดีใส่บอสตั้งแต่เช้า.."

     "มันไม่มีเหตุผลอะไรมากมายหรอก เราแค่อยากกลับกับยุ่ง"

     "รวยขนาดนี้ บอสน่าจะขับรถเบนซ์กลับบ้านเอง จะมานั่งBTSกับมนุษย์เงินเดือนอย่างผมทำไม"

     "ขับรถเองเปลืองน้ำมันจะตาย นั่งรถไฟฟ้า ได้เจอคนเยอะแยะ ได้แวะซื้อหนม ได้มองวิวในเมืองจากที่สูงๆ มีความสุขกว่าเยอะ"

     อิศรายิ้มโดยไม่รู้ตัว ความคิดที่แตกต่างทำให้มุมมองของเขาที่มีต่อผลิตโชคเปลี่ยนไป

     "กลับบ้านกันเถอะฮะ"

     ขืนคุยยาวกว่านี้ วันนี้คงต้องนอนที่ออฟฟิศ

     "อื้ม"
     .
     .
     .
     .
     .
     . 

    "พี่เป๊กฮะ"

     "อะไรเหรอ"

     "ไอติมของทอม อย่าลืมนะ"

     "ใครจะลืมล่ะเจ้าบ๊อง"

     หลายเดือนแล้วที่บอสกับลูกน้อง เจอกันที่สถานีรถไฟตอนเช้า 
    หลายเดือนแล้วที่พวกเขาต้องเดินกลับด้วยกัน 
    หลายเดือนแล้วที่พวกเขาค้นพบว่า ความสุขก็เกิดขึ้นได้ แค่เดินไปตามทางเล็กๆ เดินขึ้นบันได หอบแฮ่กๆ หัวเราะไปด้วยกัน 

    เดือนกว่าแล้ว ที่สถานะของเจ้านายกับลูกน้อง ได้ผันแปรไปมากกว่านั้น

     "เห้อ ทันรถไฟรอบสุดท้ายพอดีเลย"

     "พี่ขอโทษที่ประชุมงานเสร็จช้านะทอม วันนี้คงถึงบ้านดึกหน่อย"

     "ฮะ...."

     "ง่วงเหรอครับ"

     "ฮะ...."

     "มานี่มาคนเก่ง"

     "อื้อ"  

    ภายในรถไฟฟ้าของวันนี้มีเพียงคนสองคนนั่งพิงกัน ผลิตโชคลูบหัวคนตัวเล็กกว่าอย่างเอ็นดู น้องยุ่งอิงหัวที่ไหล่ของเขา หลับสนิท 

     "งืม พี่เป๊กคับ.."

     "น้องยุ่งละเมออีกแล้ว ฮ่าๆ"

     "ขอบคุณนะฮะ ทอมมีความสุขมากเลย"

     
      I'm thinking out loud. 
    ผมนึกออกมาเป็นคำพูด. 
    That maybe we found love right where we are. 
    ว่าบางที เราอาจจะพบความรัก ในที่ที่เราอยู่ตอนนี้อยู่แล้วก็ได้.

    End.
    __________________________________________________________________________________________________________________________________________
    ฮายยยยยยย
     นี่คือ One Shot fic ครั้งแรกของไรต์เองค่ะ 
    และเป็นการแต่งฟิคครั้งแรกด้วย.. คงจะดูออกกัน 55555555 
    อาจจะยืดยาวไปหน่อยโน้ะะ ฝากอ่านและติชมด้วยนะคะ ตอนหน้าจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ Promise! enjoy reading!
     : RecklessBear

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น